เมืองพัทยาเดินหน้าจัด "เทศกาลพลุนานาชาติ" ปรับรูปแบบยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ภายใต้ชื่อ “แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์ The Light of Eternal Loyalty”

เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้ออกมาแถลงถึงความคืบหน้าการจัด เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา ประจำปี 2568 ที่เดิมกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 - 29 พฤศจิกายน 2568 โดยยืนยันว่า จะไม่ยกเลิกการจัดงาน แต่ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบและเนื้อหาของกิจกรรมทั้งหมด เพื่อให้งานมีความเหมาะสมและสมพระเกียรติอย่างสูงสุด ในช่วงเวลาแห่งความอาลัยนี้
งานในปีนี้จึงได้รับการปรับเพิ่มชื่ออย่างเป็นทางการเป็น "เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์" (The Light of Eternal Loyalty) ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
✨ การปรับรูปแบบที่เน้นความอาลัยและวัฒนธรรม
การปรับรูปแบบงานพลุพัทยาในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การผสมผสานกิจกรรมที่แสดงถึงความจงรักภักดี และการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่า โดยมีไฮไลต์สำคัญดังนี้:
- การแสดงพลุชุดพิเศษ “แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์”:
	- ชุดการแสดงพลุอันตระการตาที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อสื่อความหมายถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและความภักดีที่สถิตอยู่ในใจประชาชนชาวไทยตลอดไป
 
- การแสดงโขนถวายความอาลัย:
- จัดให้มีการแสดงโขน ซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชเสาวนีย์ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูให้กลับมารุ่งเรือง
- มีการบรรเลง เพลงพระราชนิพนธ์ โดยวงออเคสตราเต็มรูปแบบ พร้อมฉายภาพพระราชกรณียกิจอันน่าประทับใจ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
- จัดให้มีพิธีการบนเวที และเชิญชวนผู้เข้าร่วมงาน ร่วมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที ก่อนเริ่มการแสดงพลุ เพื่อแสดงความอาลัยโดยพร้อมเพรียงกัน
- ดนตรีซิมโฟนีและเพลงพระราชนิพนธ์:
- พิธีการแสดงความอาลัย:
???? ข้อแนะนำสำหรับผู้เข้าร่วมงาน
เมืองพัทยาได้ขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้าร่วมงาน ให้สวมใส่ ชุดไทย พระราชนิยม หรือชุดไว้ทุกข์/เสื้อผ้าคุมโทน ที่ไม่ฉูดฉาด เพื่อให้การจัดงานมีความเรียบร้อยและสอดคล้องกับช่วงเวลาแห่งความอาลัย ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลระหว่างการแสดงความเคารพและการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างเหมาะสม
???? สรุป: เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยาปี 2568 จึงไม่เป็นเพียงแค่การแสดงความบันเทิง แต่เป็นงานที่เปี่ยมด้วยความหมายลึกซึ้ง เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเป็นโอกาสให้คนไทยได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ผ่านศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม









