และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเนื้อเพลงในอัลบั้ม I'm Only F**king Myself ที่แสนจะคารมคมคายที่ถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตของเธอเอาไว้อย่างหมดเปลือก และจริงใจที่สุดเท่าที่เธอเคยแต่งเพลงมา เธอได้แต่งเพลงในอัลบั้มนี้ร่วมกับ Manuka and SOLOMONOPHONIC นักแต่งเพลงคู่บุญของเธอ ที่เคยร่วมงานกับ Doja Cat และ SZA มาแล้ว โดยก่อนหน้านี้เธอปล่อยเพลง "One Thing" ที่อยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลง ทั้งยอดสตรีมหลายร้อยล้านครั้ง และสามารถไต่อันดับเข้าไปอยู่ใน Top 20 UK Singles Chart ได้อีกด้วย
ทางด้านรางวัลการันตีฝีมือในการเป็นศิลปินของ Lola Young ก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากจะได้รับรางวัล Rising Star จากเวทีอันทรงเกียรติอย่าง Ivor Novello Awards แล้ว ยังได้เข้าชิงรางวัลใหญ่ Best Pop Act จาก BRIT Awards อีกด้วย รวมถึงการได้ร่วมงานกับ Tyler, The Creator ในเพลง "Like Him", กับ Lil Yachty ในเพลง "Charlie" ได้แสดงในเทศกาลดนตรี Coachella ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ได้เป็นศิลปินหลักของเทศกาลดนตรีชื่อดังของอังกฤษอย่าง Glastonbury, เทศกาล Lollapalooza ที่ปารีส งาน Way Out West และ Lowlands รวมถึงได้ขึ้นเป็นศิลปินเปิดในทัวร์คอนเสิร์ต Hit Me Hard and Soft ของ Billie Eilish ที่ปารีส ได้แสดงคอนเสิร์ตในอังกฤษทั้งในแมนเชสเตอร์ เบอร์มิงแฮม และลอนดอนในเดือนตุลาคม ก่อนจะทัวร์ต่อที่อเมริกาเหนือในเดือนพฤศจิกายน ทั้งหมดนี้การันตีความสำเร็จของ Lola Young ได้เลยว่าเธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่กำลังมาแรงที่สุดในปี 2025 นี้ และกำลังสั่งสมประสบการณ์บนถนนสายดนตรีอย่างขะมักเขม้น ที่จะทำให้เธอกลายเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างเต็มตัวได้ในอนาคตอันใกล้นี้