Short n' Sweet เป็นอัลบั้มแรกที่มีเพลงติดชาร์ต Billboard Pop Airplay อันดับ 1 มากถึง 4 เพลง โดยไม่มีอัลบั้มไหนทำได้นับตั้งแต่อัลบั้มของ Taylor Swift ยอดสตรีมเพลงฮิตจากอัลบั้มนี้อย่าง "Espresso" (22,000 ล้านครั้ง), "Please Please Please" (14,000 ล้านครั้ง) และ "Taste" (1 พันล้านครั้ง) ทำให้เธอได้ร่วมเป็นศิลปิน Billions Club ของ Spotify และทั้งสามเพลงนี้ยังทำให้เธอได้เป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ครองตำแหน่งอันดับ Top 3 บนชาร์ต UK Singles ได้ในเวลาเดียวกัน โดยที่เธอเป็นศิลปินหญิงคนเดียวในรอบปี ที่สามารถครองอันดับ 1 บนชาร์ตนี้ได้ยาวนานที่สุดถึง 21 สัปดาห์ ส่งผลให้เธอได้เป็นศิลปินต่างชาติคนแรกที่ได้รับรางวัล Global Success จากเวที Brit Awards 2025 นอกจากนี้ อัลบั้ม Short n' Sweet ยังทำให้ Sabrina Carpenter ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่มากถึง 6 สาขาเป็นครั้งแรก และเธอสามารถกวาดรางวัลกลับบ้านมาได้ถึง 2 รางวัล ทั้ง Best Pop Vocal Album และ Best Pop Solo Performance จากเพลง "Espresso" อีกด้วย
ปี 2025 นี้เป็นปีทองอีกปีของ Sabrina ที่เธอมีทั้งทัวร์คอนเสิร์ตในหลายประเทศ ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้เธอจะเริ่ม Short n' Sweet Tour ในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งแต่ Pittsburgh ไปจนถึง New York, Nashville, Toronto และ Los Angeles โดยที่เธอจะได้แสดงที่ Madison Square Garden ใน New York ถึง 5 โชว์ และที่ Crypto.com Arena ใน Los Angeles มากถึง 6 โชว์ รวมไปถึงทัวร์คอนเสิร์ตในทวีปยุโรปที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจนทำให้ต้องเพิ่มวันแสดงใน 4 เมืองอีกด้วย
นาทีนี้ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความฮอตของโกลบอลซูเปอร์สตาร์คนนี้ได้ Sabrina Carpenter จะเป็นชื่อที่ทุกคนจดจำในฐานะ Queen of Summer Pop ไปอีกนานแสนนาน