ผู้เชี่ยวชาญในอังกฤษเผยข้อมูลจากการศึกษาว่า คนเหงามีแนวโน้มตกงานมากขึ้นในอนาคต โดยอิงจากข้อมูลประชากรอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 15,000 คน จึงเรียกร้องให้ภาครัฐและเอกชน ตระหนักถึงผลกระทบทางสังคมที่กว้างขึ้นของความเหงา ในกลุ่มประชากรวัยทำงาน
ยิ่งด้วยสถานการณ์ช่วงเกิดโรคระบาด ที่คนต้องทำงานต้องอยู่บ้านเพิ่ม จนอาจประสบกับความโดดเดี่ยวเนื่องจากความวิตกกังวล และเพิ่มโอกาสตกงานได้ยาวนานถึง 3 ปี สูงถึง 17.5%
จากหลักฐานยังชี้ว่า ความเหงาส่งผลต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของคน และเพิ่มโอกาสที่จะป่วยซึมเศร้า และยังเชื่อมโยงกับภาวะสมองเสื่อมอีกด้วย ยิ่งตอกย้ำการวิจัยต่างๆที่เคยอธิบายไว้ว่า ความเหงาเป็น “โรคระบาดทางสาธารณสุข ที่มีความชุกเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกับความเหงา ด้วยการสนับสนุนเพิ่มเติมจากนายจ้างและรัฐบาล เพื่อปรับปรุงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี" นี่เป็นความคิดเห็นตอนหนึ่งจากผู้เชี่ยวชาญ
ที่มา: facebook.com/thematterco