ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Yong Poovorawan" ถึงความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ว่า วัคซีนที่แจ้งมาอยู่ในบัญชีขององค์การอนามัยโลก ตอนนี้ มีการทดลองในมนุษย์แล้วถึง 23 ตัว และอยู่ระหว่างการทดสอบระยะที่ 3 มี 2 ชนิด เป็นของจีน Sinovac และของ Oxford ร่วมกับ AstraZeneca ที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นการทดสอบระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ซึ่งมีของจีน และของอเมริกา ที่มีการเผยแพร่ในวารสารแล้ว และยังมีหลายชนิดที่ทดลองในคน
สำหรับวัคซีนที่อยู่ระหว่างการทดลองในสัตว์ และแจ้งไปยังองค์การอนามัยโลก มีทั้งหมด 140 ชนิด และ มีของประเทศไทย อยู่ 4 ชนิด เป็นของจุฬาฯ 2 ชนิด ภาคเอกชน 1 ชนิด และมหิดลร่วมกับองค์การเภสัช อีก 1 ชนิด จะเห็นได้ว่า ทั่วโลกกำลังพยายามที่จะเอาชนะโควิด-19
สำหรับการศึกษาในระยะที่ 3 จะต้องใช้ประชากรกลุ่มใหญ่ และเพื่อให้ได้ผลถึงประสิทธิภาพในการป้องกันโรค จะต้องทำการศึกษาในประเทศที่เป็นแหล่งระบาดของโรคสูง โดยแบ่งกลุ่มให้วัคซีน และให้ยาหลอกหรือวัคซีนที่ไม่ใช่โควิด แล้วติดตามการเกิดโรค
ด้วยเหตุนี้ประเทศที่ไม่มีการระบาดของโรค เช่น ประเทศจีน และประเทศไทย จะมีอุปสรรคในการทดลองภายในประเทศ จึงจำจะต้องไปทำการศึกษานอกประเทศที่มีการระบาดของโรค และต่อมาถ้ามีวัคซีนตัวใดมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคแล้ว วัคซีนตัวอื่นที่จะพัฒนาต่อไปในการศึกษาระยะที่ 3 จะไม่สามารถแบ่งกลุ่มให้วัคซีนกับยาหลอกได้แล้ว จะต้องใช้วัคซีนที่ผลิตขึ้นมา เปรียบเทียบกับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ถ้าไม่เช่นนั้นจะผิดจริยธรรม โดยผลของวัคซีนที่ผลิตใหม่ จะต้องได้เท่าเทียมกับวัคซีนที่มีอยู่แล้ว หรือดีกว่า
ที่มา: www.newtv.co.th
