ฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบใบรับรองระบบฯ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

     เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบใบรับรองระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ตามมาตรฐานสากล ISO 22301 : 2019 ให้กับท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี นายวรพจน์ เอี่ยมรักษา กรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรือเอก กานต์ เมนะรุจิ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ร้อยตำรวจเอก ธนาบดี ธูปเทียนรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง และผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง เข้าร่วม ณ ห้องแตรทอง 1 ศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง

    ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานว่า ปี 2564 การท่าเรือฯ ได้รับการตรวจประเมินเพื่อต่ออายุใบรับรอง เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งท่าเรือแหลมฉบัง สามารถดำเนินการได้ตามเกณฑ์ตรวจประเมินมาตรฐาน ISO 22301 Version 2019 ที่มีการปรับเกณฑ์การประเมินผลให้เข้มข้นมากขึ้น และด้วยความมุ่งมั่น พัฒนา ร่วมมือร่วมใจ ของหน่วยงานที่รับผิดชอบแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจของการท่าเรือฯ ทั้ง 90 แผนงานภายใต้การกำกับดูแลอย่างเป็นระบบ ประกอบกับการสนับสนุนจาก คณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ ทำให้ การท่าเรือฯ สามารถพัฒนาแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ให้เป็นปัจจุบัน ทันสมัย และใช้งานได้จริง

     รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การที่ท่าเรือแหลมฉบัง ได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าว เป็นการแสดงให้เห็นว่า เป็นหน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจในการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับเหตุวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น และส่งผลกระทบทำให้ การบริการอยู่ชะงักให้สามารถให้บริการผู้ใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องและพระสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ โดยต้องขอชมเชยกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทยผู้บริหารการท่าเรือและพนักงานทุกระดับที่ช่วยกันผักดันสนับสนุนให้การดำเนินการระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจของท่าเรือแหลมฉบังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและขอให้รักษามาตรฐานและคุณภาพการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจไว้เช่นนี้ด้วย

     รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า เราควรจะยกระดับท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นท่าเรือชั้นนำอันดับหนึ่งของเอเชีย และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก เพื่อรองรับปริมาณตู้สินค้าที่จะเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และของโลก รวมทั้ง รองรับเรือสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นศูนย์กลางการขนส่ง และเชื่อมโยงการขนส่งทุกรูปแบบ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้ง เน้นเรื่องความปลอดภัยภายในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังทั้งหมด รวมถึง การให้บริการต้องอยู่ในระดับมาตรฐานสากล และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั้น คือ เราควรพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถอยู่ร่วมกันกับประชาชน ชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบัง ได้อย่างมีความสุข และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ รอบท่าเรือแหลมฉบัง ให้ทุกกิจกรรมของท่าเรือแหลมฉบังลุล่วงด้วยดี และขอผมฝากผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย ทุกท่าน ต้องใส่ใจในการยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานให้มีความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทุกคน และเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน เพื่อพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และก้าวไกลต่อไป อีกด้วย

แชร์ต่อให้เพื่อน
LATEST POSTS